ฟ้าหมปก

ฟ้าหมปก

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

ท่องเที่ยวเชียงใหม่เชียงราย

 ท่องเที่ยวเชียงใหม่เชียงราย 7 วัน 6 คืน
 เหนือสุดและสูงสุดของประเทศไทย
เช้า ของวันที่ 30 ธันวาคม แปดโมงเราเริ่มออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ... มุ่งหน้าไปทางสุพรรณบุรี ที่ต้องมาทางนี้เพราะว่าช่วง2-3วันนี้ใกล้ปีใหม่คนจะกลับบ้านต่างจังหวัดกัน เยอะมาก ถนนสายเอเชียที่ผ่านทางอยุธยาซึ่งเป็นสายหลักที่จะใช้เดินทางไปภาคอีสานและ ภาคเหนือในช่วงนี้รถเยอะมากบางช่วงรถติด เราขับรถมาทางสุพรรณถนนดีมาก รถก็ไม่เยอะชมวิวไปเรื่อยๆก็ผ่านชัยนาทผ่านนครสวรรค์ไปกำแพงเพชร พอถึงแยกเข้าตัวเมืองกำแพงเพชรก็เที่ยงนิดๆหิวแล้วหละ เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองตรงไปจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำแต่เราไม่ข้ามชิดซ้ายแล้ว เลี้ยวขวาใต้สะพาน แล้วทางซ้ายมือจะเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำเมืองกำแพงเพชรมีหลายร้านมากยาวไปตามลำน้ำและแถว นื้มีที่พักและรีสอร์ทริมแม่น้ำเยอะแยะสวยและร่มรื่นดีเคยมาพักครั้งนึงแล้ว ...เราก็แวะกินข้าวที่ร้านจำชื่อไม่ได้ เป็นอาหารพวกแกงป่าอร่อยมากและปลาเพราะอยู่ติดแม่น้ำ


จาก นั้นเดินทางกันต่อมุ่งหน้าไปทางจังหวัดตากผ่านไปลำปางถึงเชียงใหม่เข้าตัว เมืองประมาณ 1ทุ่ม ก็ไปเดินเล่นที่ไนท์บาซ่าร์เชียงใหม่  อากาศเย็นสบายกำลังดี มีของขายมากมาย แถวนี้มีห้องพักเยอะมากราคาก็ไม่แพงแต่เราก็ไม่พัก เดินเล่นซักพักก็เดินทางเข้าที่พัก ที่น้าแนะนำให้เจ้าของเป็นเพื่อนน้าเองเหละ แกเป็นคนเรื่องมากพอสมควร แกบอกว่าจะไปเที่ยวตรงไหนบ้างแล้วต้องเตรียมตัวและจัดเวลายังไงบ้าง ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไร เราชอบเที่ยวแบบสบายๆไม่ต้องกำหนดกฎเกณฑ์อะไร ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก นั่งคุยได้แป๊ปนึงเราเลยขอตัวไปกินข้าว พอกินเสร็จก็ซื้อขนมไปกินที่ห้องพัก แล้วก็นอนพักผ่อน




ตื่นมาเช้าวันที่ 31 ธันวาคม เห็นหมอกตอนเช้าอากาศเย็นกำลังดี จากนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ....ไปทำบุญที่วัดลอยเคราะห์ 




          เสร็จ แล้วก็ไปหาอาหารเช้ากินที่ตลาดวโรรส ก็เอารถขึ้นไปจอดที่อาคารจอดรถด้านบนของบนตลาด ไปซื้อข้าวเหนียว หมูทอด แค๊บหมู ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม เสร็จแล้วก็ไปนั่งกินกาแฟโบราณกับปาท่องโก๋ กินกันเรียบร้อยก็ออกจากตลาด 



และออกจากตัวเมืองไปเที่ยวกฤษดาดอย พอถึงที่ก็เข้าไปเดินเล่นชมสวนและถ่ายรูป ที่นี่เขาจัดไว้ได้สวยมาก 






           พอเดินทั่วแล้วก็ออกมานั่งพักกินน้ำให้หายเหนื่อยก่อน ไป เดินทางกันต่อเข้ากลางเมืองไปกาดสวนแก้วกินข้าวกลางวันกัน กะว่าจะหาชิมอาหารพื้นเมืองซะหน่อย ถามคนแถวนั้นเขาบอกว่าที่กาดสวนขนมจีนน้ำเงี้ยวและข้าวซอยอร่อยมาก พอได้ชิมแล้วอร่อยจริงๆด้วย พอกินเสร็จก็เดินทางต่อมุ่งหน้าไปอำเภอฝาง เป็นบ้านพี่เอ๋ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันที่กรุงเทพฯเรานัดเจอกันพร้อมกับ เพื่อนๆอีก 4คน เส้นทางจากเชียงใหม่ไปฝางโค้งเยอะมากผ่านเชียงดาวไม่นานก็มาถึงบ้านที่ฝาง ประมาณ 6โมงครึ่ง ที่นี่อากาศเย็นกว่าที่ตัวเมืองเชียงใหม่อีก มากินข้าวนั่งคุยนั่งเล่น พอ 2ทุ่มก็เล่นปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้า คุยเล่นกันไปเรื่อยอากาศหนาวแล้วตอนหละนี้ จนถึงเวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ก็ปล่อยโคมลอยและจุดพลุกันอีก ก็สนุกดี ตี3ก็เข้านอน

            ....เช้าวันที่ 1มกราคมตื่นมาเห็นหมอกหนามากๆอากาศเย็นมาก แต่งตัวเรียบร้อยรถตู้มารับหน้าบ้านไปเที่ยวดอยอ่างขาง เป็นรถจ้างเหมามาเพราะถ้าเอารถเก๋งขึ้นดอยกลัวว่าจะขึ้นไม่ไหว รถตู้ขับมาไม่นานก็ถึงทางขึ้นดอยเพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักเรา ทางขึ้นเขาสูงชันและคตเคี้ยวมาก ถ้าเอารถมาเองคงไม่กล้าขึ้น พอถึงข้างบน จุดแรกเป็นโครงการหลวงปลูกไม้ดอกและผักผลไม้







จากนั้นขับรถขึ้นต่อไปดูจุดชมวิวและถ่ายรูป





แล้วก็ขึ้นไปบ้านนอแล ประมาณ10นาทีแล้วก็ถึงหากินข้างกลางวัน เป็นร้านชาวบ้านดูแล้วน่าจะมีร้านเดียวนะในหมู่บ้านนี้ แต่คนขับรถตู้แนะนำว่าอร่อยมากินบ่อยแล้ว เราดูหน้าร้านก็คิดว่าจะกินได้มั๊ยเนี่ย พอเดินไปนั่งโต๊ะซึ่งอยู่หลังร้านวิวด้านหลังสวยมากมองเห็นหมู่บ้านของชาวนอ แลทั้งหมดเลย  อาหารมาเสริฟ  อื่ม!! น่ากินจังเลย เขาทำสะอาดและอร่อย ผักสดมากเพราะที่นี่ชาวบ้านปลูกเอง ข้าวก็ใช้ข้าวหอมมะลิ





พอกินข้าวเสร็จก็เดินขึ้นเขาประมาณ100เมตรก็ถึง
สุดเขตประเทศไทยบ้านนอแล







มาหลบลูกปืน เอ้ย...หลบแม่ก่อน


        พอเดินมาถึงก็เห็นชาวบ้านนั่งขายของกันเต็มสองข้างทางเหมือนตลาดนัด ก็เดินเล่นกันอยู่บริเวณนั้นชาวบ้านก็เอาของพื้นบ้านมาขายให้นักท่องเที่ยว เดินผ่านตลาดไปก็เป็นลานโล่งไว้จอดรถ หากมองไปอีกฝั่งก็เป็นประเทศพม่าและเห็นฐานทัพของพม่าอยู่บนเนินเขา เรานั่งพักและถ่ายรูปกันสักพักก็ขึ้นรถกลับลงมา



พี่กบอยากได้จัง.........แต่จะเอากลับยังไงดี

อากาศเย็นแต่แดดร้อนมากกกกก


ด้านหลังผมครับ....พม่า

        แล้วเดินทางต่อไปไห้วพระที่วัดท่าตอน อยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะของวัดจะตั้งอยู่บนเนินเขหลายลูกมีสิ่งก่อสร้างเรียงรายไปตามเนินเขาพื้นที่กว้างขวางมาก และที่วัดนี้ยังมีห้องพักเป็นอาคาร9ชั้น มีห้องเยอะมากให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักฟรีอีกด้วย



ไหว้พระและเดินเล่นถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางกลับบ้านพัก

     ....เช้าวันที่ 2 มกราคม ตื่นมา แต่งตัวเรียบร้อย พี่เอมทำข้าวต้มกุ้งให้กินอร่อยมาก รถตู้มารับหน้าบ้านไปเที่ยวดอยอินทนนท์ ทางขึ้นดอยเล็กและชันมาก ยอดดอยอินทนนท์อยู่กิโลเมตรที่46 ปลายสุดของถนนจอมทอง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางที่ 2,565 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุดของประเทศไทย ระหว่างเดินทางขึ้นดอยรถเยอะมากรถก็เลยติดตลอดทางที่ขึ้นทางก็ชันพี่ต้องลงมาเอาก้อนหินหนุนล้อไม่ให้รถไหล กว่าจะถึงยอดดอยก็ต้องหนุนล้อไป 3-4ครั้ง 

 
พอถึงดอยอินทนนท์ก็ไหว้พระแล้วเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย ก็หาข้าวกินกันที่นี่แหละ



 
เดินทางต่อขึ้นรถไปจุดที่สูงที่สุดคือจุดชมวิวอุณหภุมิต่ำสุด 4 องศา


 
จากนั้นเราเดินทางต่อไปไหว้พระที่วัดพระธาตุจอมทอง

       จากนั้นก็ไปส่งพี่กบที่สถานีขนส่งเชียงใหม่กลับกรุงเทพก่อนเพื่อน พวกเราก็กลับบ้านที่ฝาง

....เช้าวันที่ 3 มกราคม วันนี้เราตกลงจะแยกกันเที่ยวกับกลุ่มพี่เอ๋แล้วเพราะเราจะไปแม่สาย เริ่มเดินทางออกจากบ้านพักไปไม่กี่สิบกิโลก็ถึง น้ำพุร้อนของอำเภอฝางที่ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
 
          กำลังจะเดินไปถ่ายรูปน้ำพุร้อนก็พุ่งขึ้นมาพอดี สวยมากมันจะพุ่งขึ้นมาทุกครึ่งชั่วโมง

      
        แล้วเราก็ไปซื้อไข่ไก่มาต้มกัน เดินเล่นแป๊ปเดียวไข่ก็สุกแล้วไปนั่งกินข้าวเช้า กาแฟกับไข่ต้ม




        กินข้าวเสร็จเดินทางต่อไปเหนือสุดของประเทศไทยก็คือแม่สาย ซึ่งติดกับท่าขี้เหล็กของพม่า โดยมีแม่น้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดน และมีสะพานไว้ให้สัญจรไปมาหาสู่กันพอถึงตลาดแม่สายเราก็เดินซื้อของเพราะที่นี่ขายของถูกมากและเดินเล่นซักสองชั่วโมงก็หาที่กินข้าวตรงที่จอดรถด้านบนเป็นอาคาร3-4ชั้น อยู่ติดแม่น้ำอยู่ทางขวามือของสะพานข้ามไปพม่า ส่วนที่ชั้น2 เป็นร้านขายอาหารตามสั่งที่ร้านเป็นระเบียงโล่งสามารถมองเห็นฝั่งพม่าได้ชัดเจน ส่วนน้ำในแม่น้ำก็ใสไม่สกปรกเหมือนในกรุงเทพฯ สั่งอาหารมากินอร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะข้าวผัดปูผัดอร่อยกว่าไปกินชายทะเลอีก ราคาก็เท่ากับร้านอาหารตามสั่งทั่วไปเลย กินข้าวเสร็จก็เดินทางกันต่อ
ขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากตลาดแม่สายมุ่งหน้าไปดอยแม่ฟ้าหลวงได้ไม่กี่กิโลก็เห็นสองข้างทางมีร้านขายสตอเบอรี่หลายสิบร้านเรียงรายแม่ค้าก็เป็นเด็กวัยรุ่นทั้งนั้นโบกมือเรียกลูกค้า แต่เรายังไม่ซื้อเพราะอีกหลายวันถึงจะกลับกรุงเทพฯกลัวสตอเบอรี่มันจะเสียซะก่อน เราก็ผ่านไปประมาณ 20 กว่าโลก็เลี้ยวขวาไปทางดอยแม่ฟ้าหลวง เพื่อหาที่พักคืนนี้แต่หาที่ถูกใจไม่ได้เลย ก็เลยลองเปิดหนังสือดู โทรไปเขาบอกว่าปกติคืนละ 5,000 บาท วันนี้(นักท่องเที่ยวกลับหมดแล้ว)ลดให้เหลือ 2,000 บาท  เราก็สนใจขับรถไปดูอยู่ดอยแม่สลอง พอไปถึงอย่างกับรีสอร์ทร้าง น่ากลัวไม่น่านอนพักหรอก เราก็ไปดูแถวนั้นอีกที่ก็เหมือนกันคือรีสอร์ทร้าง เพราะนักท่องเที่ยวกลับหมดแล้ว เราขับรถกลับไปหาที่พักในตัวเมืองเชียงรายดีกว่า
                พอตอนค่ำถึงตัวเมืองเชียงรายก็หาที่พักได้เลยมีให้เลือกเยอะคนเที่ยวก็ยังพอมีอยู่ เราเก็บของไว้ที่ห้องพักแล้วขับรถไปเดินเล่นที่ไนท์บาซ่าร์เชียงราย พอไปถึงก็จอดรถที่ด้านหลังสะดวกดี ลงมาเดินเล่นมีของขายมากมาย ตรงกลางมีเวทีการแสดงเล่นดนตรีและด้านหน้าเป็นลานนั่งทานอาหารรอบๆเป็นร้านขายอาหาร เราก็กินมื้อค่ำกันที่นี่ได้ฟังเพลงไปด้วย กินอิ่มนั่งเล่นสักพักก็กลับไปโรงแรมที่พัก



 
         ....เช้าวันที่ 4 มกราคม กินอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็เดินทางไปเที่ยวพระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง ที่นี่มีพันธ์ไม้สวยๆเยอะมากและจัดไว้สวยงาม เราเดินเล่นถ่ายรูปกันอยู่นานก็ออกมาซื้อของฝากทางด้านหน้าเป็นพวกชากับขนม





    เดินทางไปเที่ยวกันต่อที่วัดล่องขุน ที่อาจารย์เฉลิมชัยเป็นผู้สร้างสรรงานศิลป์ มาถึงวัดลงเดินเล่นและถ่ายรูป วัดนี้สวยมากๆ 



 หลังสีทองนี้คือห้องสุขา....จริงๆนะ

อันนี้ไม่รู้หัวใคร
 แล้วเดินมากินข้าวที่หน้าวัดอาหารอร่อยสะอาด เสร็จแล้วเดินซื้อของแล้วก็เดินทางกันต่อมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ 

ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ตอนค่ำก็ไปโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ คืนนี้เราพักกันที่นี่เอากระเป๋าเก็บที่ห้องแล้วลงมาถ่ายรูปที่สตูดิโอที่ชั้นล่างของโรงแรม ก็แต่งชุดเมืองเหนือแล้วถ่ายรูปกันทั้งครอบครัว 

               
 
 
เสร็จแล้วก็ขึ้นไปนอนเล่นบนห้องพักผ่อนนอนหลับ

....เช้าวันที่ 5 มกราคม กินอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็เดินทางไปเที่ยวดอยสุเทพ เราขับรถออกมานิดเดียวก็ถึงขึ้นไปจอดรถไว้แล้วเดินไปขึ้นลิฟท์ต่ออีกก็ถึงพระธาตุดอยสุเทพ เราไห้วพระรอบๆพระธาตุ



เสร็จก็กลับลงมาดูหลินปิงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ 


 แล้วไปไหว้พระเจ้าทันใจที่วัดเจ็ดยอด 

 
 จากนั้นไปตลาดวโรรสเพื่อซื้อของฝากกลับกรุงเทพฯ เป็นพวกแค็ปหมู ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม สตอเบอรี่ ลำใยอบแห้ง ซื้อของเสร็จก็เดินทางกลับขับรถมาทางจังหวัดตากระหว่างทางก็เห็น หลักกิโลเมตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ชื่อว่า สี่แยก 5 เชียง ประตูสู่ล้านนา


 พอมาถึงกำแพงเพชรก็แวะซื้อของฝากพวกกล้วยต่างๆ เดินทางต่อถึงนครสวรรค์ แวะกินข้าวที่ตลาดริมน้ำนครสวรรค์ ซึ่งเป็นตลาดขายของกินเยอะมาก กินเสร็จเดินทางกลับบ้านกรุงเทพฯ

 ................................................................................

 แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญที่ไปในครั้งนี้
1. ร้านอาหารริมแม่น้ำเมืองกำแพงเพชร
2. ไนท์บาซ่าร์เชียงใหม่
3. วัดลอยเคราะห์
4. ตลาดวโรรส
5. เที่ยวกฤษดาดอย
6. กาดสวนแก้ว
7. ดอยอ่างขาง
8. สุดเขตประเทศไทยบ้านนอแล
9. วัดท่าตอน
10. ดอยอินทนนท์
11. วัดพระธาตุจอมทอง
12. อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
13. ตลาดแม่สาย
14. ดอยแม่สลอง
15. ไนท์บาซ่าร์เชียงราย
16. พระตำหนักดอยตุง
17. สวนแม่ฟ้าหลวง
18. วัดล่องขุน
19. ดอยสุเทพ
20. สวนสัตว์เชียงใหม่
21. วัดเจ็ดยอด
22. ตลาดริมน้ำนครสวรรค์